เด็กยูเครนกลับสู่อ้อมอกครอบครัว หลังถูกพรากไปรัสเซียนานหลายเดือน
เมื่อวันเสาร์ (8 เม.ย.) ที่ผ่านมา มีเรื่องราวอบอุ่นหัวใจท่ามกลางความร้อนระอุของสงครามรัสเซีย-ยูเครน เด็กยูเครน 31 คนได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาถูกพรากจากบ้านและพาตัวไปอยู่ในดินแดนใต้ปกครองของรัสเซียนานหลายเดือน ซึ่งในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
สำนักข่าวต่างประเทศบันทึกภาพเด็ก ๆ ยูเครนทยอยสุดท้ายปีนลงมาจากรถบัส แล้วพากันตรงเข้าไปสวมกอดสมาชิกในครอบครัวที่รออยู่ หลายคนไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เมื่อช่วงเวลาแห่งการพลัดพรากสิ้นสุดลงเสียทีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เปิดใจเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรัสเซีย ผู้แปรพักตร์และหนีออกนอกประเทศ
ศาลอาญาระหว่างประเทศ “ออกหมายจับปูติน” ก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
สหรัฐเผย เด็กยูเครนถูกรัสเซียจับเข้าค่ายปลูกฝังอุดมการณ์ต่อต้านยูเครน
บ็อกดาน เด็กชายชาวยูเครนวัย 13 ปี เล่าว่า “เราถูกพาไปค่ายฤดูร้อนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่เราติดอยู่ที่นั่น 6 เดือน ผมร้องไห้เลยตอนอยู่บนรถบัสแล้วเห็นแม่ ผมมีความสุขมากที่ได้กลับมา”
ด้านอิรินา แม่วัย 51 ปีของบ็อกดานกล่าวว่า เธอได้รับข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับลูกชายของเธอในช่วง 6 เดือนที่ต้องจากกัน “ไม่มีการเชื่อมต่อโทรศัพท์ ฉันกังวลมาก ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าเขาถูกทำร้ายหรือเกิดอะไรขึ้นกับเขา … มือของฉันยังสั่นอยู่เลย”
การที่เด็กยูเครนได้กลับมาพบกับครอบครัวอีกครั้งนี้ ได้รับการประสานงานโดยองค์กรด้านมนุษยธรรม Save Ukraine ซึ่งกล่าวว่า ขณะนี้ได้เสร็จสิ้นภารกิจ 5 ภารกิจในการพาเด็กยูเครนกลับบ้าน หลังถูกรัสเซียพาตัวไปโดยมิชอบ
มิโคลา คูเลบา ผู้ก่อตั้ง Save Ukraine กล่าวว่า “ต้องขอบคุณการทำงานร่วมกันและการประสานงานของเราที่ทำให้เราได้สัมผัสถึงอารมณ์อันน่าทึ่งเหล่านี้อีกครั้ง เมื่อหลังจากพลัดพรากกันมานาน เด็ก ๆ วิ่งเข้าไปสู่อ้อมแขนของครอบครัว เมื่อคุณเห็นน้ำตาแห่งความสุขบนใบหน้าของเด็กชาวยูเครน คุณจะรู้ว่ามันไม่ได้ไร้ประโยชน์ทั้งหมด”
คูเลบากล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้ประกอบด้วยกลุ่มพ่อแม่ 13 คน ซึ่งเดินทางออกจากยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีผู้ปกครองคนอื่นอีกหลายคนที่มอบอำนาจให้ไปรับลูกของพวกเขาแทน
พ่อแม่กลุ่มนี้เดินทางข้ามยูเครนไปยังโปแลนด์ ก่อนจะเดินทางผ่านเบลารุส รัสเซีย และเข้าสู่ไครเมียที่ปกครองโดยรัสเซีย ซึ่งพวกเขาได้พบกับเด็ก ๆ 24 คนอีกครั้ง และพบเด็กอีก 7 คนใน 3 เมืองของรัสเซียคือ โวโรเนซ รอสตอฟ และเบลโกรอด
เธอบอกว่า อย่างไรก็ตาม มีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นระหว่างภารกิจช่วยเหลือครั้งล่าสุด ผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินทางไปกับกลุ่ม เสียชีวิตระหว่างการเดินทาง ผู้หญิงคนนี้มีกำหนดไปรับลูก 2 คนคืน แต่เนื่องจากเธอเสียชีวิต เด็กทั้งสองคนจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับยูเครน
ที่ผ่านมา รัสเซียกล่าวหามาโดยตลอดว่าได้มีการพาตัวเด็กยูเครนไปจากครอบครัวโดยมิชอบ และศาลอาญาระหว่างประเทศเอง ก็ได้ออกหมายจับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปุติน จากประเด็นเรื่องการพาตัวเด็กไปจากบ้านเกิดนี้ด้วย
รายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือน ก.พ. ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเครือข่ายของ “ค่าย” หลายสิบแห่งที่เด็กยูเครนถูกพาไปเข้ารับ “การอบรมสั่งสอนทางการเมือง” ซึ่งรวมถึงการศึกษาด้านวิชาการ วัฒนธรรม ที่มีรัสเซียเป็นศูนย์กลาง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานประธานาธิบดีของยูเครนประเมินว่า จำนวนเด็กยูเครนทั้งหมดที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านเกิดมีอย่างน้อย 20,000 คน และมีคดีที่เกี่ยวข้องหลายพันคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัสเซียปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าเป้นเพียงการพานด็กยูเครนไปอยู่ในที่ปลอดภัยเท่านั้น
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก Reuters